เรื่อง เล่าชาวไกด์
โดยคุณ ปรีชา คงสุข
ขวบวนการลูกทัวร์
ในเรื่องราวต่างๆของบรรดาไกด์แล้วไซร์
เรื่องไม่เป็นเรื่องบางเรื่องก็ทำให้เกิดเรื่องจนเป็นที่อิดหนาระอาใจ
และบุคคลสำคัญซึ่งเป็นที่มาของเรื่องที่ทำให้เหล่าเสนาไกด์ตองปวดหัวคือ “ลูกทัวร์”
ซึ่งชื่อก็บอกอยู่ว่า “ลูก” ต้องดูแลเอาใจใส่เหมือนไข่ในหิน
ลูกในที่นี้มีความหมายแตกต่างจากลูกตัวเองโดยสิ้นเชิง
ลูกทัวร์ในที่นี้หมายถึงผู้ที่ชอบท่องเที่ยวไปในทุกที่ทุกถิ่นที่มีทางไปและต้องไปให้ถึง
ลูกจะงอแงอย่างไร เหล่ไกด์ทั้งหลายก็ต้องคอยพินอบพิเทา ถึงเวลากินก็แทบจะป้อนให้
ถ้าเขาป้อนให้นะ
ถึงเวลานอนก็จัดห้องหับต่างๆถึงเวลาเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งก็ต้องคอยดูแล
แต่ลูกก็มีส่วนดีที่ทำให้เรามีงานทำ มีเงินใช้
และลูกก็ยังดีที่ไม่ได้มายืมเงินหรือของเงินจากพวกเราไปใช้
แต่มีเงินมากมานไว้จับจ่ายใช้สอย ซึ่งบางที่เราเองก็อิจฉาน่าดู ลูกบางท่านก็เห็นจะเอาใจยากเหลือเกิน
หรือบางท่านก็ออดอ้อนเสียนี่กระไร
พวกเราเลยอยากยกหยิบประเด็นของบรรดาเหล่าลูกทัวร์ออมาจำแนกแยกแยะกันบ้างว่า
ลูกทัวร์เป็นอย่าไร
ลูกทัวร์มีด้วยกันหลายประเภท
เช่นเดียวกับบรรดาไกด์ที่มีหลายรูปแบบหลายสไตล์ไม่แพ้ทางกันเท่าไหร่
ยิ่งถ้าจับคู่กันได้เหมาะเหม็งแล้วละก็ จะทำให้ได้รสชาติของบรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นทวีคูณ
ลูกทัวร์บางคนก็ดีเลิศประเสริฐศรี
เป็นผู้ฟังที่ดี ให้ความร่วมมือทุกอย่างมาตรงตามเวลาที่นัดหมาย
ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ทัวร์มีข้อผิดพลาดบ้างก็ไม่ถือสาหาความ แถมยังให้อภัย
และให้กำลังใจในการทำงาน
ผมเคยไปรับลูกค้าบริษัทไบเออร์ตรงถนนสาทร
กำหนดเวลารถออก 08.00 น.
มีพนักงานบางคนยังมาไม่ถึง ผู้จัดการบอกว่าขอให้ทัวร์ออกรถตามเวลาที่ได้นัดหมาย
ส่วนพนักงานที่มาช้ากว่ากำหนดเขาจะต้องรับผิดชอบเองและสิ่งที่ควรที่จะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้
อย่าให้ส่วนรวมต้งรอคนเพียงไม่กี่คน เดี๋ยวกำหนดการข้างหน้าจะพลอยเสียตามไปด้วย
หรืออีกครั้งหนึ่งผมไปรับลูกค้าบริษัทธนาธิวัฒน์ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ไปเที่ยวล่องเรือทะเลสาบแม่ปิงที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก
และไปพักค้างแรมต่อที่จังหวัดเชียงใหม่
ขากับรถที่ท่านประธานบริษัทนั่งมาสายพานเกิดขาด ขบวนการรถทุกคันต้องหยุด เพราะมาพร้อมกัน
ควรกลับพร้อมกัน ท่านประธานบริษัทนำหนังสือพิมพ์มาปูนอนและบอกให้ลูกน้องกลับไปก่อน
ไม่ต้องห่วง คิดว่าคงใช้เวลาซ่อมไม่นานแล้วท่านก็นิ่งไม่ว่าอะไร
จนเราจัดแงเรื่องรถเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ สมกับที่ท่านเป็นประธานบริษัท
ไม่ถือตัว เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีเมตตาธรรม แถมยังให้เงินอีกจำนวน 10,000
บาทกับทีมงานที่ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วงไป
พูดถึงเงิน
10,000
บาทแล้ว ผมเองเคยได้ทิปสูงสุดคนเดียวโดยไม่ต้องไปแบ่งใครเป็นจำนวน 10,000
บาทจากคุณพิพัฒน์เจ้าของบริษัทตอนที่ไปญี่ปุ่น
และอีกครั้งหนึ่งตอนที่ทำทัวร์ภายในประเทศ โดยใช้รถตู้ไปกับคุณพิพัฒน์อีก
ได้รัยทิปอีก 10,000 บาท
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ(ทิปมากกว่าค่าตัว) ทำให้มีกำลังใจในการทำงาน
เรื่องของทิปนั้น
ผมได้ฟังพี่โต้แห่งบริษัทเดสติเนชั่นเอเชียบอกไว้ว่าอย่าไปหวังมาก
เพระถ้าเราหวังแล้วไม่ได้ตามที่หวัง จะทำให้การทำงานของเราบกพร่อง
ปฏิบัติงานได้ไม่เต็มที่ ขอที่ทำงานให้เต็มกำลังความสามารถแล้วทุกอย่างก็จะดีเอง
บรรดาไกด์ต่างๆ
มักจะลุ้นให้ลูกทัวร์จับจ่ายซื้อของ เพราะทางร้านจะมีสัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ให้
เมื่อลุ้นลูกทัวร์จับจ่ายซื้อของ เพราะทางร้านจะมีสัดส่วนหรืเปอร์เซ็นต์ให้
เมื่อลุ้นลูกทัวร์ซื้อของได้ไม่มาก บาครั้งอาจพาลไปบ้างก็มี แต่ก็ด้วยคุณธรรมหลายๆ
อย่างเรื่องการชอปปิ้งเป็นเรื่องปกติวิลัย ผมเองก็ถือว่ามันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง
จะได้หรือไม่ได้ไม่เป็นไร อย่าไปยึดติด ขอให้ลูกทัวร์พอใจก็เพียงพอแล้ว
ผมเองก็ไม่ได้ดีเหนือไปกว่าไกด์คนอื่นยังมีอะไรอีกมากที่ผมต้องเรียนร็จากโลกใบนี้
ก่อนที่จะคล้องบัตรไกด์เวลาทำงาน
มักจะบอกตัวเองเสมอว่า วันนี้เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด จะบอกอย่างนี้ทุกครั้งเพื่อเตือนสติตัวเอง
ผมคิดว่าไกด์ส่วนใหญ่มีคุณธรรมต่อการปฏิบัติหน้าที่ทุกคน ทุกส่วน ทุกที่
ทุกหน่วยงาน ย่อมต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป
แต่ละอาชีพคงจะแยกแยะกันเองว่าอย่างไรถึงจะดีและอย่างไรไม่ดี ลูกทัวร์มีหลายประเภท
ซึ่งบรรดาไกด์ของเราได้เจอกันมาแล้ว อาทิ
ลูกทัวร์ประเภทรู้ทุกย่าง
รู้ทุกเรื่อง
มักจะคุยแข่งกับไกด์และชอบทำให้เสียโปรแกรม
อยากจะแวะโน่นแวะนี่ตามที่ตัวเองคุยไว้ ไม่งั้นเสียฟอร์ม
บางครั้งผมก็ยอมรับว่าลูกทัวร์รู้เรื่องมากกว่าเราเสียอีก
ก็อย่างที่ยอมรับแล้วว่าเราเองยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ลูกทัวร์บางคนรู้มาก
รู้จริง แต่มีฟอร์ม ไม่กระโตกกระตาก จะแอบถามแอบกระซิบบอกเรา
อย่างนี้น่านับถือน่ายกย่องทีเดียว
ผมเคยให้ลูกทัวร์เป็นไกด์แทนโดยให้เกียรติเชิญขึ้นมาพูดเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์
ทำอย่างนี้ให้รู้แล้วรู้รดกันไปเลย เพราะความรู้เยอะ ควรบอกกล่าวเป็นวิทยาทาน
ผมไม่อยากทำให้ลูกทัวร์เสียหน้า แต่อยากให้ได้หน้าเพิ่มอีกหลยกระบุงโกย
ลูกทัวร์ประเภทขี้หลงขี้ลืม
เราไปทาง
ลูกทัวร์ไปอีกทาง แล้วจะเจอกันไหมนี่ “ทุกท่านตามผมมานะครับ อย่าเผลอไผล
อย่าพึ่งแวะดูของนะครับ ไว้ตอนขากลับค่อยแวะชม” แต่ก็นั่นแหละครับ
สิ่งล่อตาล่อใจมันเยอะ ขอแวะดูซักหน่อยเถอะ เผลอแผล็บเดียวหลงเลย
ยิ่งถ้าไปประเทศจีนและญี่ปุ่นด้วยแล้ว
เชื่อได้เลยว่าหาไม่เจอแน่ๆยังไงนะครับถ้าท่านหลง
ให้ยืนอยู่ตรงนั้นแหละทำตัวให้เด่นชัด เดี๋ยวไกด์เขาจะมาตามหาเราเองแหละ
แต่อย่าตายใจนะครับบางทีไกด์ก็ไม่เคยไป ไกด์เองก็กลัวลงเหมือนกัน
ประเภททำทัวร์ภายนอกประเทศ(Out Bound) ด้วยแร้วบางทีทั้งไกด์ทั้งลูกทัวร์ต่างคนต่างหลง
สิ่งที่ลูกทัวร์จะลืมได้มากเป็นอันดับหนึ่งหลังจากที่เราได้สอบถามแม่บ้านตามโรงแรมและรีสอร์ตามมากก็คือเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้านี่แหละครับรองลงมาก็คือเสื้อผ้าอีกนั่นแหละ
แต่เป็นเสื้อผ้าที่อยู่บนเตียง อยู่ในผ้าห่มไม่รู้ว่ามันหลุดลุ่ยอะไรขนาดนั้น
บางทีก็ถอดสร้อยคอแขวนไว้
หรือไม่ก็ซุกไว้ใต้หมอนแบตเตอรี่โทรศัพท์ก็มักจะลืมเอาไว้ แต่ของบางอย่างไม่น่าลืมเลย
อย่างเช่น ฟันปลอมที่ถอดแช่เอาไว้ในแก้วน้ำ
มารู้ตัวอีกทีตอนรับประทานอาหารกลางวันหลังจากเช็คเอาต์ออกมาแล้ว มิน่าละ
มื้อนั้นไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ มันทะแม่งๆชอบกล
ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทางโรงแรมจะส่งพัสดุไปรษณีย์ด่วนคืนมาให้หรือยัง
ลูกทัวร์ประเภทซื่อบริสุทธิ์ใสปิ๊ง
“ขอให้ทุกท่านนำกระเป่ามาวานหน้าห้องตอน
7
โมงเช้านะครับ แล้วพนักงานขนกระเป๋า(Bell Boy)
จะนำกระเป๋าของทุกท่านลงมา ก่อนขึ้นรถขอความกรุณาช่วยตรวจสอบอีกครั้งนะครับ
ว่ากระเป๋าของท่านได้ถูกนำมาวางไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อมาถึงสนามบินเชียงใหม่ขอให้ทุกท่านช่วยนำกระเป๋าเข้าเช็กอินด้วยตัวเอง
เพราะเป็นกฎระเบียบในการรักษาความปลอกภัย” และแล้วอาเฮียก็เดินมา
“อานิด
อานิด กระเป๋าเฮียละ”
“อ้าว...เฮีย
ตอนที่ผมให้เฮียตรวจสอบกระเป่าก่อนขึ้นรถ เฮียตรวจหรือเปล่า
ถ้าวางไว้พนักงานขนกระเป๋าเขาต้องเก็บมาหมดแล้ว แน่ใจนะเฮียวางไว้หน้าห้อง”
“เออ...เฮียวางไว้หน้าห้องน้ำ”
“ขบคุณเฮียมากเลยครับ
กระเป๋าเฮียจะตามมาไฟลต์ต่อไปแล้วทางบริษัทจะจัดส่งไปให้เฮีย”
ประเภทใส่ซื่อกันอย่างนี้
ไกด์เขากลัวกันจริงๆ ครับ
ลูกทัวร์แบบน่าชกจังเลย
มีเยอะ
ได้แต่คิด แต่ไม่กล้าหรอกครับ เคยพาลูกทัวร์ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศและชมทัศนียภาพบริเวณเกาะต่างๆบนจุดชมวิวเกาะวัวตาหลับ
ซึ่งซึ่งทะเลน้ำสวยงามมาก เมื่อทุกคนขึ้นมาถึงจุดชมวิว ยังไม่ทันหายเหนื่อยดี
ก็ได้ยินคำพูดลอยตามลมมากระทบกับโสตประสาทเข้าว่า “ก็งั้นๆ
ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย”(อยากจะชกเปรี้ยงเข้าสักที จะได้มีอะไรตื่นเต้นไง)
ผมคิดว่าน่าจะทดลองทำบันจี้จัมป์ตรงจุดชมวิวนะครับหลังจากที่ได้ยิน และ..”อานิด
อานิดพามาดูอะไร ไม่เห็นมีอะไรเลยมีแต่ซากอิฐ ซากหิน ไม่เจริญหูเจริญตา” โอ้! อนิจจังวัฏสังขารา
ลูกทัวร์ประเภทหมายเลขที่หนึ่ง
อะไรๆก็ต้องฉันก่อนนะ
อาหารเสิร์ฟก็ต้องลงโต๊ะฉันก่อนนะ
เช็กอินเข้าโรงแรมต้องเอาห้องให้ฉันก่อนนะ เข้าห้องน้ำต้องฉันก่อนนะ
ผมเองก็รู้สึกว่าลูกทัวร์ประเภทนี้จะต้องสอบได้ที่หนึ่งตลอด
ไม่เคยเป็นที่สองรองใครแน่ๆเลย
ลูกทัวร์ประเภทสกุลหลี
จะเหล่มองทุกอย่างอย่างสุนทรี
ผมไม่ได้พูดถึงแต่ลูกทัวร์ ไกด์ประเภทนี้ก็เหมือนกัน
ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากมองสิ่งสวยๆงามๆ แต่สิ่งสวยงามที่ว่า น่ะ
ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวนะ แต่เป็นน้องๆสตาฟฟ์ซึ่งจะถูกจ้องมองเป็นพิเศษ
ลูกทัวร์บางคนก็สุภาพเรียบร้อย วางฟอร์มดีไม่กระโตกกระตาก เหงียบๆ นิ่มๆ เผลอๆ
แต่หยิบชิ้นปลามัน น้องสตาฟฟ์บางคนก็อดใจไม่ไหวเหมือนกัน เพราะแขกหล่อเข้าตากรรมการ
แต่ไม่ได้ออกหน้าออกตาเกินงาม คงอยู่ในทีเท่านั้น ลูกทัวร์บางคนเอาใจสตาฟฟ์ดี๊ดี
ซื้อของมาฝากบ้างล่ะ ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กันลืมบ้างล่ะ ฯลฯ
ลูกทัวร์ประเภททองหยิบ
เห็นอะไรไม่ได้
เป็นต้องหยิบติดไม้ติดมือไปหมด ไปห้องพักของโรงแรมที่มีแฟ้มใส่กระดาษเขียนจดหมาย
ใส่ซองจดหมาย ใส่โปสการ์ด เขาให้หยิบได้แต่กระดาษ ซอง และโปสการ์ด
ก็เล่นหยิบมาทั้งแฟ้มเลย รีสอร์ตที่ระยองเขามีชุดคลุมสำหรับสวมทับชุดว่ายน้ำ
พี่แกหยิบชุดใส่กระเป๋าเสียนี่ บางทีมีรองเท้าแตะให้ใส่เดินในห้อง เห็นสวยนุ่มดี ก็หยิบใส่กระเป๋าเสียเลย
เวลาเช็กเอาต์แม่บ้านเขาจะสำรวจแต่ละห้องว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
มีอะไรเสียหาย หรืออะไรหายไปบ้าง
บางครั้งไกด์เองก็ต้องรักษาหน้าลูกทัวร์ไว้เหมือนกัน ไปแอบกระซิบถามเขาว่า
“พี่ต้องการแฟ้มหรือเปล่าเขาคิดค่าแฟ้ม 500 บาท
ถ้าพี่ไม่ชอบก็เอาแฟ้มให้ผม เดี๋ยวผมเอาคืนให้” ส่วนมากจะได้รับคำตอบจากลูกทัวร์
“พี่ไม่รู้ นึกว่าเขาแจก” แต่สิ่งหนึ่งซึ่งมักถูกนำไปเป็นของที่ระลึกก็คือ
ถุงใส่ผ้าที่ใช้แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้โรงแรมจะประหยัดถุง Laundry (เป็นถุงพลาสติกที่ใส่ลิ้นชักไว้ในตู้เสื้อผ้า ถ้าต้องการให้ซักผ้าก็นำผ้าไปใส่ไว้ในถุง
Laundry)
และบางครั้งถุงพวกนี้ลูกทัวร์จะใส่เสื้อผ้าใช้แล้วแต่ไม่ส่งซักเอากลับบ้านไปด้วย
บางโรงแรมเลยใช้ถุงผ้าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ซึ่งถุงผ้านี้จะใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วและต้องการให้ซักเท่านั้น
ถ้าไม่ซักก็หาถุงใส่เอง ดีนะครับที่ไม่หยิบตู้เย็นหรือไม่ก็โทรทัศน์ใส่กระเป๋ากลับบ้านไปด้วย
ลูกค้าประเภทรอบคอบเกินเหตุ(ขี้กลัว)
“กลิ่นอะไรไหม้”
“ผ้าเบรกครับ” “แล้วมันจะเป็นอะไรหรือเปล่า” “ไม่เป็นไรครับ
ตอนนี้มันเบรกไม่อยู่แล้ว”
“คนขับกินยาหรือเปล่า”
“อ่อ...กินครับ” “ยาม้า (ยาบ้า) กินด้วยหรือ “อืม...ไม่ใช่ครับ กินยาพาราเซตามอล”
(โล่งอกไปที)
“บนเรือมีชูชีพหรือเปล่า”
“มีครับ แต่คงไม่มีโอกาได้ใช้”
“ไปตั้งไกลคนขับขับมือเดียวเหรอ”
“ไม่นี่ครับ ผมก็เห็นเขาขับสองมือ”
“ทไมโค้งมันเยอะจัง”(ถนนเสนปาย-ม่ฮ่องสอน) “เยอะหรอกครับ มีแค่ 2 โค้ง
โค้งซ้ายกับโค้งขวาเท่าครับ”
“น้ำอะไรนี่”
“อ่อ...น้ำตะไคร้ครับ เป็นน้ำสมุนไพร” “กินได้ไหม” “กินได้ครับ
ผมเห็นว่าเวลาสุนัขมันไม่สบายมันก็กินตะไคร้ครับ”
“แอร์ทำไมไม่เย็น”
อื้อฮือ!
ก็เหนื่อยๆมา จะให้แอร์เย็นจัดเลยหรือไง รถก็จอดตากแดด
และนี่ก็เมืองไทยนะ มันมีแค่ 2 ฤดูคือ ร้อนกับร้อน...เลย”
ลูกทัวร์ประเภทขี้เกรงใจ
“รับน้ำไหมครับ
จะรับน้ำอะไรดีครับ” “น้ำอะไรก็ได้ครับ” (ลำบากใจครับ) “รับข้าวเพิ่มไหมครับ” “อ๋อ...ไม่เป็นไรครับ เดี่ยวตักกันเองได้ครับ”
(ไม่ให้พวกผมทำงาน เดี๋ยวก็ตกงานกันหมดหรอกครับ)
“มีอะไรให้ผมช่วยเหลืออีกไหมครับ”
“ไม่เป็นไรผมช่วยตัวเองได้ครับ”
ลูกทัวร์ประเภทจับผิด
“มาครบกันแล้วนะครับ
เราจะออกรถไปเลย” “อ้าว...ไกด์ไม่ได้ไปเชียงใหม่เหรอ
เปลี่ยนโปรแกรมไปจังหวัดเลยตั้งแต่เมื่อไหร่” (ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ) รถเลี้ยวผิด
รถเลยไปบ้าง ก็จะได้ยินลูกทัวร์ประเภทนี้พูดว่า “ เป็นออปชันเพิ่มเหรอครับ”
(เหน็บแนมแกมประชดเสียเหลือเกิน)
ลูกทัวร์ประเภททดสอบไอคิว
จะถามจริงหรือลองภูมิเราก็ไม่แน่ใจ
แต่บางคำถามเหมือนอยากจะดูกึ๋นไกด์อย่างงั้นแหละ เหตุเกิดที่ผาแต้ม อำเภอโขงเจียม
จังหวัดอุบลราชธานี ที่ฝาผนังเป็นรูปรอยมือที่เกิดจากการใช้สีพ่น ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ยังไม่มีเครื่องพ่น
ก็ใช้ปากอมสีแล้วพ่นใส่ ลูกทัวร์ถามว่าเขาทำไว้เพื่ออะไร คงไม่ใช่เพื่อความสวยงาม
หรือจะเป็นจิตรกรรมฝาผนัง บ่งบอกเจตนารมณ์
แต่ผมว่าน่าจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรสักอย่าง เอาละสิ เรื่องมันคงไม่ยุติง่ายๆแน่
ก็เลยเสริมต่อให้มันหลุดโลกนอกรอบไปเลยว่า ไม่น่าจะใช่นะครับ
น่าจะเป็นการส่งสัญญาณถึงพวกมนุษย์ต่างดาวหรือพวกตัวเองว่า
ข้ามาถึงที่นี่เรียบร้อยแล้ว ที่นี่มีแต่สันติ ผู้คนน่ารัก ไม่ควรมารุกราน
เป็นเครื่องหมายที่แทนหลายอย่าง บอกว่าห้าม หรือบ๊ายบาย หรืออย่ามาปฏิบัติการ
ต้องเป็นไปในทิศทางนี้ถึงจะสะใจลูกทัวร์ มาทราบทีหลังว่าท่านมีอาชีพเป็นทนายความ
แหม...มิน่าล่ะ ซักเราอย่างกับเป็นพยานอย่างนั้นแหละ
ลูกทัวร์แบบจริงจังกับชีวิต
ผิดพลาดนิดหน่อยก็ไม่ได้
ออกนอกเรื่องนอกราวก็ไม่ได้อีก ใครขึ้นรถช้าก็ผิดพลาดเวลาไปบ้างก็จะค้อนควัก
ทำท่าทีไม่ค่อยพออกพอใจเท่าไหร่ ทุกอย่างจะต้องแป๊ะ อะไรจะจริงจังมากมายขนาดนั้น
ลูกทัวร์แบบเฮฮาปาร์ตี้
เป็นลูกทัวร์ที่สนุกกับชีวิต
ไม่ยึดติดกับสาระแหละรูปแบบ อะไรก็ได้ ไม่ว่ากัน มีที่อยู่ที่กินดีแล้ว
บางครั้งเมาไหนเมานั่น เฮไหนเฮนั่น ให้ความร่วมมือดี เริ่มขึ้นรถก็เริ่มเมา
หรือบางทีเมามาก่อนหน้านั้น ประเภทลูกทัวร์เมาก็มีหลายแบบ มีทั้งหน้ารัก
ซึมลึก แข็งกร้าว กร่าง โวยวาย
บางกลุ่มขึ้นมาก็รวมหัวกันเล่นไพ่ ใครจะพูด ใครจะบ่น ใครจะว่า ข้าไม่สน
ขอให้เจ้า(มือ) อยู่ก็พอแล้ว
สนุกดีค่ะ
ตอบลบอยากเป็นไกด์ละ
ตอบลบเป็นไกด์นี่ลำบากเนอะ
ตอบลบเป็นไกด์ก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย
ตอบลบตัวหนังสือใหญ่ดีอ่านง่าย
ตอบลบเนื้อหาสนุก
ตอบลบชัดเจนค้ะ
ตอบลบดีมาก
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจดี
ตอบลบ